ค้นหาอะไรก็เจอ...โดยกูเกิล

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวงานของดี อำเภอกัลยาณิวัฒนา 2557 หรือ งานสามชนเผ่า (ภาคจบ) เชียงใหม่


เนื่องจากมีเรื่องอยากเล่าเยอะครับ เกี่ยวกับงานของดี อ. กัลยาณิวัฒนา เลยขอต่ออีกสักครั้งครับ นอกจากในงานมีการจัดแสดงที่เป็นไฮไลต์ ที่ผมชอบมาก นั้นก็คือ การสร้างบ้านของแต่ละชนเผ่าให้เราได้ชม ได้เห็นความแตกต่างว่าบ้านเรือนของแต่ละเผ่าต่างกันอย่างไร แล้วอีกเรื่องที่ผมชอบมากสำหรับทริปนี้คือ การได้เห็นการ "การทอผ้าด้วยกี่เอว" ของชาวปกาเกอญอครับ

เด็ก ๆ แสดงการทอผ้าด้วยกี่เอว
ผ้าทอที่ส่งเข้าประกวด
ผ้าทอที่ทำเป็นนกยูงประดับรถในขบวนพาเรด
สินค้าที่ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของอำเภอก็คือ ผ้าทอ จากฝีมือชนเผ่านี้ละครับ นอกจาก สาธิตการทอด้วยกี่เองแล้ว ยังมีการจัดประกวดผ้าทอด้วย ซึ่งแต่ละชิ้นสวยงามมาก ๆ ครับ ผ้าที่ทอออกมา นอกจากจะทำเป็นเสื้อแล้ว ยังมีผ้าพันคอ ผ้าถุง แล้วก็ผ้าโพกหัวอีกด้วย

สำหรับการทอผ้าด้วยกี่เอวนี่ นอกจากที่ผมชมภายในงานแล้ว ในช่วงก่อนงานหนึ่งวัน ผมก็มีโอกาสไปชม และพูดคุยกับชาวปกาเกอญอ ที่ นั่งทอผ้าด้วยกี่เอวอยู่ที่บ้าน การทอผ้าก็จะทำหลังจากเสร็จงานไร่นา มีเวลาก็ทอผ้าอยู่ที่บ้านซึ่งก็จะมีลวดลายแตกต่างกันออกไป และมีความหมายแตกต่างกันไป ตามแต่วัสดุที่นำมาประดับอีกด้วยถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังนะครับ น่าสนใจทีเดียว



นอกจากเรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องของใช้เช่นเสื้อผ้าแล้วก็มาถึงเรื่อง ของกินครับ ที่เห็นเยอะๆ เลยก็ป็นผลไม้ เช่น สเตอเบอรี่ ที่นี่มีเยอะครับ ผลไม้เมืองหนาว นอกจากของชาวบ้านแล้วก็มีของโครงการหลวงด้วย ซึ่งที่นีมีแปลงวิจัยของโครงการหลวงอยู่หลายที่ครับ เนื่องจากอากาศที่เหมาะสมคือ เย็นเกือบจะทั้งปี คุ้มค่าครับกับการมาเที่ยวทริปนี้ หากมีโอกาสผมแนะนำเลยครับ อำเภอกัลยาณิวัฒนา โดยเฉพาะช่วงหลังปีใหม่ที่อากาศหนาวและดอก พญาเสือโคร่งที่นี่สวยมาก ผมกลับมาอีกแน่นอนครับ

หนูน้อยชาวม้ง ระหว่างรอแม่ขายสตอเบอรี่ กินขนมกันอร่อยเลย

การเดินทางไป อ. กัลยาณิวัฒนา นั้นไม่ยากครับจากเชียงใหม่เลือกเดินทางได้ สองทาง
- ทางหลวง 107 แม่ริม - แม่แตง เข้า 1095 มุ่งหน้า อ. ปาย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกก่อนถึง อ.ปาย 13 กม. ใช้ทางหลวง 1265 ผ่านบ้านเหมืองแร่ เข้าสู่ อ.กัลยาณิวัฒนา ระยะทางรวม 165 กม. ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. (ผมแนะนำเส้นทางนี้ครับ)
- เส้นทางแม่ริมเสมิง ผ่านอำเภอ บ่อแก้ว อุทยานแห่งชาติขุนขาน บ้านยางหน้า บ้านแม่ตะละ บ้านแม่แดดน้อย บ้านดงสามหมื่น บ้านแจ่มน้อย เข้าบ้านวัดจันทร์ แต่ทางนี้ไม่ค่อยดีครับต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะทางรวม 155 กม.

ที่พัก โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โทร 053 0249349, 053 260072,086 181 3388

ถ้าสนใจก็อ่านเรื่องที่ผมเขียนลงบล็อกนี้ได้ครับ ผมเขียนไว้สามเรื่องแล้วก็ดูคลิปด้วยนะครับ น่าสนใจจริงๆ










View โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การป่าไม้ in a larger map

เที่ยวงานของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา ปี 2557 (ภาคแรก) เชียงใหม่


ติดไว้นานจนผมจะลืมอยู่แล้ว แต่ก็ลงมือเขียนจนได้ครับกับเรื่องราวเที่ยวงาน ของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา หรือ งานขบวนพาเรดสามชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในอำเภอนี้ งานก็เริ่มต้นด้วยขบวน พาเรดของชนเผ่าทั้งสาม คือ ม้ง ลีซอ และปกาเกอญอ ซึ่งมีการตกแต่งรถเพื่อร่วมขบวน การแสดงศิลปะ หัตถกรรมของแต่ละชนเผ่า เช่น การรำดาบ การเป่าแคน แสดงการทอผ้า

การเป่าแคนของเผ่าม้ง
ขบวนพาเรดของชนเผ่า ปกาเกอญอ
ภานในงานก็จะมีการจัดบูธแสดงผลผลิตจากชุมชน ตำบลต่าง ๆ ทั้ง จากหน่วยงานของรัฐ และ เอกชนมีทั้งสินค้าเกษตร และ หัตถกรรม เดิน ดู เพลินครับ แถมด้วย ขนม แปลก ที่ไม่เคยกิน ที่ใหน หลังจากพิธีเปิดงาน ผมเดินเที่ยวอยู่เกือบสองชั่วโมง โดยใช้เวลานานมากกับ การเข้าชม บ้านจำลองซึ่งมีการปลูกบ้านของสามชนเผ่าให้ได้เข้าเยี่ยมชม โดยแต่ละหลังก็ไม่ใช่ขนาดเล็ก ๆ นะ ครับ ขนาดเท่าของจริงที่อยู่อาศัยกันตามปกติเลย

บ้านของชาวปกาเกอญอ
บ้านของชาวม้ง
บ้านของชาวลีซู

สำหรับบ้านสามชนเผ่านี่น่าสนใจ มาก ๆ ครับ ผม อยากให้ดูคลิปที่ถ่ายมาจะได้เห็นบรรยากาศภายในบ้านของแต่ละชนเผ่ากันจริง ๆ ว่าเค้าอยู่อาศัยกันยังไง แบ่งสัดส่วน ดัดแปลงที่อยู่อาศัยกันยังไงให้เหมาะกับสภาพอากาศ และ ชีวิตความเป็นอยู่ของตน ผม ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ งานนี้ อีกเยอะยังไงก็ขอต่อเรื่องหน้าอีกสักรอบนะครับเขียนหมดในเรื่องนี้เดี่ยวจะยาวเกินยังไงก็ตามอ่านกันด้วยนะ ครับ












View งานของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา in a larger map

วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวอำเภอที่ 878 ของประเทศไทย งานของดี อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่


ทะเลหมอกลอยตัวเหนือผิวน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำ ห้วยอ้อ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวอำเภอที่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเคยได้ชื่อว่าเป็นอำเภอใหม่ล่าสุดของประเทศ เป็นอำเภอที่ 878 อำเภอกัลยาณิวัฒนา ก่อนเดินทางหาข้อมูลอยู่พอสมควรเพราะเป็นเส้นทางที่ผมไม่เคยไปมาก่อน แล้วก็พบว่าอำเภอนี้น่าสนใจมากๆ ครับ เช่น อำเภอนี้เป็น อำเภอที่มี ป่าสนสองใบใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ ผมมาทราบภายหลังอีกว่าเป็น ป่าสนสองใบที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ธรรมดาครับอำเภอนี้ นอกจากนั้นที่นี่ อากาศเย็นตลอดทั้งปีครับ โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่พักที่ผมจอง ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์

สนสองใบ
สนสองใบตลอดสองข้างทางแสดงว่าใกล้ถึงแล้วครับ
สำหรับจุดมุ่งหมายในการเดินทางของผมครั้งนี้นอกจากอยากไปเที่ยวอำเภอนี้แล้ว ช่วงที่ผมเดินทางเค้ามีการจัด งานของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งมีกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่างครับ และที่เป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งเลยก็คือ ขบวนแห่สามชนเผ่า ที่นี่มีชนเผ่าอาศัยอยู่สามชนเผ่าครับ คือ ปกากะยอ ม้ง และลีซู มีการจัดแสดงประเพณี ของแต่ละชนเผ่าให้ได้ชม มีการออกบูธ แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของแต่ละชุมชนแต่ละหมู่บ้าน รวมทั้งของโครงการหลวงด้วยครับ

บ้านพักที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (มี WIFI) 600 บาทครับ
ป่าสนสองใบ
นอกจาก ป่าสน และ งานของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา หรือ ชาวบ้านที่นั้นเค้าเรียก งานสามชนเผ่า แล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกครับ

อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ที่บรรยากาศดีมาก ๆ โดยเฉพาะในตอนเช้า มานั่งชมพลิ้วหมอกบนผืนน้ำ

วัดจันทร์ วัดเก่าแก่ประจำอำเภอ ที่มีวิหารแว่นกันแดด หรือ วิหาร เรแบน 

สวนป่าที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้

และมูลนิธิโครงการหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์
อีกเรื่องที่น่าสนใจมากคือ ที่นี่ดอกพญาเสือโคร่ง สวย และเยอะมากครับ ผมพลาดไม่ได้มาที่นี่ในช่วงต้นปี เจ้าหน้าที่ที่องค์การป่าไม้ บอกว่าสวยมาก เสียดายครับ รับรองปีหน้าไม่พลาด
วิหารแว่นกันแดด วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา GPS 19°04'24.2"N 98°18'20.9"E

มูลนิธิโครงการหลวง
บรรยากาศตอนเย็นที่อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ตามชายป่าริมอ่างเก็บน้ำก็จะมีคนมาแค้มปิ้ง
ใบเมเบิล เพิ่งจะออกใบใหม่ ช่วงที่เปลี่ยนใบที่นี่สวย มาก ๆ ครับ
ร้านกาแฟที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ 
ป่าสนสองใบที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์
เรื่องที่อยากเล่าเกี่ยวกับ อำเภอกัลยาณิวัฒนา นี้มีเยอะจริงๆ ครับ สำหรับเรื่องนี้ก็ชมบรรยากาศสวย ๆ ครับ เรื่องหน้าผมจะเล่าเรื่อง งานสามชนเผ่าครับ


สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เดินทางได้ สองทางด้วยกันครับ
- ทางหลวง 107 แม่ริม - แม่แตง เข้า 1095 มุ่งหน้า อ. ปาย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกก่อนถึง อ.ปาย 13 กม. ใช้ทางหลวง 1265 ผ่านบ้านเหมืองแร่ เข้าสู่ อ.กัลยาณิวัฒนา ระยะทางรวม 165 กม. ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม.
- เส้นทางแม่ริมเสมิง ผ่านอำเภอ บ่อแก้ว อุทยานแห่งชาติขุนขาน บ้านยางหน้า บ้านแม่ตะละ บ้านแม่แดดน้อย บ้านดงสามหมื่น บ้านแจ่มน้อย เข้าบ้านวัดจันทร์ แต่ทางนี้ไม่ค่อยดีครับต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะทางรวม 155 กม.

โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โทร 053 0249349, 053 260072,086 181 3388
ผมแนะนำให้ใช้เส้นทางแรกครับ ขับรถง่าย สบายกว่ากันเยอะครับ
พิกัด GPS โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ 19°04'59.2"N 98°20'09.6"E












View โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การป่าไม้ in a larger map


View วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่ in a larger map

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวผาช่อ หน้าผาอัศจรรย์ อุทยานแห่งชาติแม่วาง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่


ทึ่งครับกับความสวยงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง ผมเห็นครั้งแรกก็ต้องยื่นนิ่งด้วยความตื่นตาตื่นใจ แล้วก็ เกิดคำถามในใจว่า ธรรมชาติสร้างสรรสิ่งเหล่านี้ได้ยังไง สถานที่ ที่ผมกำลังพูดถึงก็คือ "ผาช่อ" ครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดตัวได้แค่ปีกว่า ๆ ผาช่อ อยู่ภายใน อุทยานแห่งชาติแม่วาง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่

ตามข้อมูลที่ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ใจดี ผู้นำทางผมเที่ยว บอกว่าที่แห่งนี้เคยเป็นต้นน้ำ ของน้ำปิง หรือ เคยเป็นพื้นดินใต้แม่น้ำมาก่อนเมื่อหลายพันปีก่อน สังเกตุได้ชั้นดินที่ทับถมกันเป็นชั้น ๆ เห็นได้ชัดเจน และก้อนหินที่มีลักษณะเป็นก้อน กลมๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ หน้าผาเหล่านี้เกิดจากการยุบตัว หรือ ยกตัวขึ้น เผยให้เห็นชั้นดินที่สวยงาม ต้องบอกว่าสวยงาม มากๆ ครับ สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากหายตะลึง คือ เดินเข้าไปให้ใก้ลหน้าผาที่สุด เแล้วเงยหน้าขึ้นมองริ้วรอย ร่องรอยที่สวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา

เสาดินสามต้น ด่านแรกของ ผาช่อ
ก้อนหินเกาะเป็นช้น ๆ หินแต่ละก้อนจะกลม ๆ
ชั้นดินเป็น ชั้น ๆ แข็งเหมือนปูนซีเมนต์
สำหรับคนที่รักธรรมชาติ ชอบเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ผมแนะนำว่าต้องไปเที่ยวผาช่อครับรับรองว่าได้ความประทับใจกลับมาแน่นอน นอกจากผาช่อแล้วที่ อุทยานแห่งชาติแม่วาง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ครับ เช่น ผาแดง กิ่วเสือเต้น ถ้ำน้ำออกฮู ถ้ำหลวง หมู่บ้านกะเหรี่ยงนาสา และที่ผมว่าน่าจะเป็นสวรรค์ของนักดูนก ก็คือ เส้นทางดูนก แม่ตืน แม่แตง เพราะระหว่างทางที่ผมเดินทางเข้าไปที่ผาช่อเห็นนกแปลกตาหลายชิดครับ
จุดชมวิว ผาช่อ
ผาช่อ
สำหรับการเดินทางไปผาช่อ หรือ อุทยานแห่งชาติแม่วาง ไปได้ สองทางครับ
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้า อ.จอมทอง เลี้ยวขวามุ่งหน้า อ.แม่วาง พอถึงแยก ให้เลี้ยวซ้ายทางไป อุทยานแห่งชาติแม่วาง ให้สังเกตุ ป้ายของอุทยานแห่งชาติแม่วางสีม่วง ตรงแยก และจะมีป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยวผาช่อ สีม่วงด้วยครับ ถ้าเลี้ยวขวาจะไป ล่องแพที่อ.แม่วาง ซึ่งเป็นคนละทางครับ ผมไปผิดมาแล้วจากการนำทางของ GPS เราไป อ.ดอยหล่อครับไม่ใช่ อ.แม่วาง
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้า อ.จอมทอง พอถึง กม.ที่ 38 ให้หาที่กลับรถจะมีทางเข้าอุทยานอยู่ซ้ายมือครับ
สอบถามข้อมูล ท่องเที่ยว การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่วาง ที่ โทร. 053 818 348, 053 819 349 พิกัด GPS 18°31'04.1"N 98°44'21.8"E

แนะนำเพิ่มเติมครับ สำหรับท่านที่ต้องการไปเที่ยวผาช่อ ผมแนะนำให้เตรียมตัว เรื่อง เสื้อผ้า กับรองเท้าให้พร้อมหน่อยก็ดีนะครับ เพราะต้องเดินในป่ากันเล็กน้อย มีทางเดินสะดวกครับแต่ก็ใช้เวลานิดหน่อย ทางที่ดีร้องเท้าควรเป็นรองเท้าผ้าใบครับจะสะดวกที่สุด












View ผาช่อ in a larger map

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวงานวันช้างไทย ( 13 มีนาคม ) ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง , ปางช้างแม่สา เชียงใหม่



ทุกวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันช้างไทย ครับ หลายคนอาจยังไม่รู้ และขอสารภาพว่าตัวผมเองก็เพิ่งจะรู้ก็ปีนี้แหละครับ ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเรามานาน เป็นสัตว์ที่มีบุญคุณกับเรามาตั้งแต่ในอดีต ทั้งเป็นช้างศึกที่ทำให้เรามีเอกราชมาถึงปัจจุบัน เป็นสัตว์ที่เราใช้ทำงานหนัก ลากซุง ใช้เป็นพาหนะ จนกระทั่งในปัจจุบันช้างถูกลดบทบาทลงอันเนื่องจากความเจริญในหลาย ๆ ด้าน จนเกือบจะทำให้ช้างศูนย์พันธ์ุ

ช้างตักบาตร
และเนื่องจากการตระหนักถึงความสำคัญของ ช้าง ทำให้มีการประกาศเอาวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันช้างไทยครับ

 หลายสถานที่ ที่ให้ความดูแลช้างอยู่ก็มีการจัดงาน วันช้างไทย ครับเช่นที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ที่จังหวัดลำปาง และที่ ปางช้างแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งผมก็มีโอกาสได้ไปร่วมงานมาทั้งสองที่ครับ

ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย มีการ ทำขวัญช้าง ช้างใส่บาตร และการเลี้ยงสโตกช้าง หรือ การเลี้ยงขันโตกช้าง โดยมีขบวนแห่ขันโตกของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ใก้ลเคียง ผมเพิ่งเคยเห็นช้างทีเดียว 40-50 เชือกก็งานนี้ละครับ






พิธีทำขวัญช้าง
ส่วนที่ ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก็จัดงานวันช้างไทยเหมือนกันครับ วันนี้เปิดให้บริการฟรีไม่เก็บค่าเข้าชม ผมก็ถือโอกาสไปใช้บริการฟรีซะหน่อย ที่นี่นอกจากมีการ เลี้ยงสโตกช้างแล้ว ก็มีการแสดงนาฎศิลปจาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ทำเอาผมทึ้งไปกับความงามและความสามารถของ ผู้แสดง ทั้งที่เป็นท่านอาจารย์ และนักศึกษาที่ร่วมแสดง งดงามมาก ๆ ครับ

การแสดงจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 นอกจากนั้นยังมีการแสดงของชนเผ่าชาวเขาจาก บ้านโต้งหลวง ซึ่งอยูไม่ไกลจากปางช้างนัก มางานนี้คุ้มค่ามาก ๆ ครับ ได้ดูการแสดงดี ๆ ได้เห็นถึงความสามารถของช้างใน มุมอื่น ๆ เช่น ช้างวาดรูป ช้างเป่าเมาท์ออร์แกน ได้เห็นถึงความผูกพันธ์ของคนกับช้าง ถ้ามีโอกาสลองสบตากับช้างดูครับ ผมลองมาแล้วบรรยายความรู้สึกไปไม่ถูก
เลี้ยงสโตกช้าง หรือ เลี้ยงขันโตกช้าง
ช้างเป่าเม้าท์ ออร์แกน
ช้างวาดรูป









View ปางช้างแม่สา อ.แม่แรม จ.เชียงใหม่ in a larger map


View ศูนย์อนุรักษ์ช้างจังหวัด ลำปาง in a larger map