หลังจากผ่านคืนที่น่าประทับใจที่ท่าซ่วง เช้านี้เราจะเดินทางไปหลวงพระบางครับ กินอาหารเช้าง่าย ๆ เป็นเมนูที่เจ้าบ้านเตรียมไว้ให้เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวอะไรสักอย่างผัด รสชาติคล้ายๆ สุกี้ครับ แล้วก็คั่วปลา ปลาร้ากินกับผักต้มครับ กับกาแฟหนึ่งแก้วจบมื้อเช้า
 |
| มื้อเช้าที่บ้านท่าซ่วง |
 |
| อาหารเช้าครับ รสชาติคล้ายสุกี้ |
หลังจากมื้อเช้าพวกเราก็อำลาเจ้าบ้าน เก็บข้าวของเตรียมตัวไปรอเรือ เราต้องไปรอเรือช้าที่ริมโขงเพื่อโดยสารไปหลวงพระบาง ท่าริมโขงเค้าจะมีคนขายตั๋วเรือและคอยเรียกเรือให้เรา อันนี้ก็แล้วแต่ดวงครับ ถ้าเรือเต็มก็อดไป บางครั้งต้องรอกันเป็นวันก็มี แต่พวกเราค่อยข้างจะโชคดีหน่อยเรือพอจะมีที่ว่างครับเราเลยได้ไปก่อนเที่ยง
 |
| เรือช้าที่มารับพวกเราไปหลวงพระบาง |
 |
| บรรยากาศในเรือช้าไปหลวงพระบาง |
สำหรับมื้อเที่ยงพวกเรามีเสบียงที่เตรียมมาจากท่าซ่วง แต่สำหรับผมขออินกับบรรยากาศ การกินมาม่าร้อน ๆ บนเรือ นั่ง นอน บนเรือก็เพลินดีครับ ชมบรรยากาศพูดคุยกับคนท้องถิ่น หลายคนที่ผมคุยด้วยเคยไปทำงานอยู่เมืองไทยด้วย ได้คำแนะนำเรื่องเที่ยวหลวงพระบางอีกหลายเรื่อง ประมาณห้าโมงเย็นพวกเราก็ถึงหลวงพระบางครับ
 |
| ถ้ำติ่ง สถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางไปหลวงพระบาง เป็นถ้ำที่มีพระพุทธรูปใหญ่ |
 |
| ท่าเรือหลวงพระบางเห็นไกลๆ นั้นละครับ |
เราขึ้นหลวงพระบางที่ท่าเรือบ้านดอนใหม่ซึ่งเป็นท่าเรือแห่งใหม่ที่หลวงพระบาง จากนั้นก็นั่งรถสามล้อไปหาที่พักในเมือง เดินหากันอยู่สักพักแถว ๆ ในซอยด้านหลังไปรษณีย์ หลวงพระบางซึ่งมีเกสต์เยอะครับ เราก็ได้ที่พักชื่อ รัตนา เกสต์เฮ้าส์ RATTANA Guest House ห้องพักใช้ได้ที่เดียวครับ เป็นห้องแอร์ ราคาถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะคืนละ 500 บาท มี WIFI ด้วย
แถมเดินเที่ยวหลวงพระบางได้สะดวกเนื่องจากใกล้กับถนนคนเดินหลวงพระบาง แถมใกล้ ร้านกาแฟ JOMA ด้วย
 |
| นั่งรถสามล้อเข้าเมืองจากท่าเรือหลวงพระบาง |
 |
| ที่พักของพวกเราครับ มีเบอร์ติดต่อด้วย |
 |
| เค้ามีจักรยานให้ยืมถีบเที่ยวด้วย |
หลังจากเข้าที่พักเรียบร้อยก็นัดแนะกันเพื่อไปเดินเที่ยวและ หาของกินมื้อเย็น เราจะไปกันที่ตลาดมืดครับ
