ค้นหาอะไรก็เจอ...โดยกูเกิล

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วันที่แปดของทริป กัมพูชา เวียดนาม(โฮจิมินท์) 25 ก.ค. - 9 ส.ค. 2558 ออกจากเมือง จ๊าวด๊ก (Chao Doc) ผ่านเมือง ลองเซีย (Long Xuyen) จุดหมายคือเมือง เกิ่นเทอ (Can Tho)


สวัสดีครับหายไปหลายวัน เพิ่งจะได้มีโอกาสกลับมาเขียนเรื่องอีกครั้ง สำหรับทริปการเดินทาง 15 วัน กัมพูชา เวียดนามใต้ วันที่แปด ผมเริ่มออกเดินทางจากเมือง จ๊าวด๊ก Chao Doc เมืองท่าที่ผมเดินทางมาจากพนมเปญ เพื่อเข้าสู่เวียดนาม ผมอยู่ที่เมืองนี้สองคืน จากนั้นก็เดินทางต่อครับ เดิมที่เดียวแพลนว่าจะไปเมือง ลองเซีย Long Xuyen

นั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้าง จากโรงแรมที่ เกิ่นเทอ ไปสถานีขนส่งครับ
เวียดนามก็มีมอเตอร์ไซต์รับจ้างนะครับ
นั่งกินกาแฟที่สถานีขนส่ง ถ้าสั่งกาแฟร้อนเค้าจะใส่กาแฟร้อนในแก้วที่แช่ในน้ำร้อนอีกที
รถโดยสารเดินทางไปเมือง ลองเซีย ไม่มีแอร์ครับ
ร้านกาแฟ หรือ ที่รอรถโดยสารริมทาง เค้านิยมผูกเปล แบบนี้ครับ นอนรอสบายเลย
รถวิ่งเลียบคลองไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าเมืองลองเซีย
เตาเผาอิฐมอญ
แม่ค้าขายของที่จุดจอดพักรถ
หน้าตาเหมือนขนมเที่ยน
มื้อกลางวันที่หน้าขนส่งเมืองลองเซีย อร่อยดี แถมถูกด้วย จานนี้ประมาณ 25 บาท
น่ากินทั้งนั้นครับ
ผัดขากบ
เรานั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างจากหน้าโรงแรมไปสถานีขนส่ง เดินหาข้อมูล หารถอยู่สักพัก ก็ได้ตั๋วไปเมืองลองเซีย เป็นรถโดยสารธรรมดาไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม มีเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะออก เลยเดินไปสั่งกาแฟร้อนมาดื่ม กาแฟร้อนที่นี่เค้าจะเสริฟมาในแก้วที่แช่มาในน้ำร้อนอีกทีครับ ผมเข้าใจว่าเพื่อจะรักษาความร้อนของกาแฟเอาไว้นาน ๆ นั่งดื่มกาแฟไม่หมดแก้วก็ได้เวลารถออก

ทั้งรถก็เป็นชาวบ้านไม่มีชาวต่างชาติเลย เราก็เลยเป็นจุดสนใจหน่อย ประมาณว่าไอ้พวกหน้าตาประหลาด ๆ พวกนี้มันเป็นใคร จะไปใหน หลงทางหรือเปล่า แต่ด้วยความที่เพื่อนผมเค้าพอจะพูดภาษาเวียดนาม ภาษาเขมรได้บ้าง ก็เลยได้ผูกมิตรกับผู้โดยสารคนอื่นได้ เลยเลิกสนใจเรา ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงเราก็ถึงเมืองลองเซีย ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดี ได้เวลามื้อเที่ยงครับ กินมื้อเที่ยงเสร็จเดินหาโรงแรมที่พัก ปรากฏว่าที่นี่หลายๆ โรงแรมเค้าไมีรับชาวต่างชาติด้วยเหตุอะไรผมก็ไม่เข้าใจ เราเลยตัดสินใจกันว่าไปที่อื่นดีกว่า
นั่งรถโดยสารไปเมืองเกิ่นเทอ
จุดจอดพักรถระหว่างไปเมืองเกิ่นเทอ
รถที่เราใช้เดินทางไปเมืองเกิ่นเทอ เป็นรถ บ. FUTA
บรรยากาศขนส่งที่เมืองเกิ่นเทอ
รถโดยสารบาง บ. เค้ามร WIFI ในรถด้วยนะครับ
นั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าเมือง ที่นี่เค้ามีแท็กซี่มิเตอร์ก่อนเมืองไทยนะครับ
คนส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์ไซต์
ศาลเจ้าจีน ใก้ล ๆ ที่พัก ที่เมืองเกิ่นเทอ
มองจากโรงแรมที่ผมนอนจะเห็น ห้างขายเครื่องไฟฟ้า
Sense City บรรยากาศภายในเหมือนห้างบ้านเราเมือสิบปีที่แล้ว
เดินออกมาจากโรงแรมที่พัก็ถึงแยะนี้ครับ ห้าง SENSE มี COOP Mart ซูปเปอร์มาเก็ตที่ผมเดินซื้อของ
มื้อเย็นที่เกิ่นเทอ ไปเดินห้างซื้อของเลยแวะ Loteria เป็น ฟาสฟูด ร้านดังที่เวีนดนามครับ
โรงแรมที่ผมพักที่เมืองเกิ่นเทอ 300.000 VND ประมาณ 500 บาทครับ
เราไปหาตั๋วรถเพื่อเดินทางต่อ ตัดสินใจว่าจะไปเมืองเกิ่นเทอ เมืองท่องเที่ยวอีกหนึ่งเมืองของเวียดนาม จะใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง พอได้ตั๋วเรารออีกประมาณหนึ่งชั่วโมง กว่ารถจะออกเลยเดินหาร้านกาแฟนั่ง(อีกแล้ว) ต้องบอกว่าที่เวียดนามมีร้านกาแฟเยอะมาก และโดยส่วนใหญ่แล้วเค้าดื่มกาแฟเย็นกันครับ กาแฟดำแบบโอเลี้ยงข้น ๆ ใส่มาในแก้วประมาณครึ่งแก้ว ในแก้วที่ใส่น้ำแข็งมาเต็ม พร้อมให้ช้อนยาวมาหนึ่งอันเพื่อคนกับน้ำแข็ง แต่ที่สำคัญคือ เกือบทุกร้านให้บริการ WIFI ฟรีแถมสัญญาณแรงมาก (Upload 20 MB/Download 15 MB)

นั่งเปิดโน๊ตบุคออนไลน์ที่ร้านกาแฟสักพักก็ได้เวลาเดินทางต่อ เราถึงเมืองเกิ่นเทอประมาณห้าโมงเย็นจากนั้น ก็นั่งแท็กซี่เข้าเมืองหาโรงแรม เราได้โรงแรมเดิมที่เพื่อนผมเคยพัก ห้องพักดีทีเดียวครับ สะอาดใกล้กับร้านขายของ เดินไปห้างได้ ชื่อโรงแรม 199

เช็คอินเรียบร้อยเราก็ไปเดินห้างซื้อของ หามื้อเย็นกิน โดยเราไปเดินห้างใกล้ ๆ ที่พักชื่อ Sense City บรรยากาศเหมือนห้างบ้านเราสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีร้านอาหารด้วย ผมกินมื้อเย็นที่ร้านฟาสฟูด ชื่อดังที่เวียดนาม ร้าน Loteria ผมสั่งเบอร์เกอร์เนื้อมากินอร่อยดีครับ เค้าการนตีว่าเค้าใช้เนื้ออิมพอร์ตจากออสเตรเลีย ราคาไม่แพงด้วย จบมื้อเย็นก็กลับโรงแรมพักผ่อน เจอกันใหม่พรุ่งนี้ครับ

ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่ติดตามอ่าน คอมเม้นท์พูดคุยกันได้ ผมรออยู่อยากคุยกับเพื่อน ๆ ครับ
(ดูคลิปการเดินทางทริปนี้ได้ที่ www.youtube.com/theguidelana)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น