ค้นหาอะไรก็เจอ...โดยกูเกิล

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วันที่หกของทริป กัมพูชา เวียดนาม(โฮจิมินท์) 25 ก.ค. - 9 ส.ค. 2558 นั่งเรือเร็ว จากพนมเปญ ไป เวียดนาม


หลังจากจบภาระกิจเที่ยวด่วนครึ่งวันที่พนมเปญ ครึ่งวันที่เหลือเราก็เดินทางกันต่อครับ วันนี้เราจะเดินทางไปประเทศเวียดนามโดยทางเรือ จากพนมเปญเราสามารถนั่งเรือเร็วไปประเทศเวียดนาม โดยใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยปกติเรือจะออกจากพนมเปญประมาณบ่ายโมง วิ่งไปตามแม่น้ำโตนเลสาบ จนไปบรรจบกับแม่น้ำโขง มุ่งหน้าสู่ประเทศเวียดนาม เราไปถึงที่ท่าเรือประมาณเกือบเที่ยง ซื้อตั๋วเรือราคา 24  USD โดยท่าเรือปลายทางคือเมือง จ๊าวด๊ก CHAU DOC ของประเทศเวียดนาม แต่ปรากฏว่าวันนี้เรือมาช้าครับ กำหนดการใหม่คือ เรือจะออกประมาณ บ่ายสองโมงครับ
กำลังรอลงเรือครับ
น้ำ ขนม กล้วยน้ำหว้า ของแจกบนเรือ
ได้พักที่นั้นน่าจะวิวดีเนอะ
เรือขุดทรายครับ ในโตนเลสาบมีการขุดทรายเยอะทีเดียว
บรรยากาศภานในเรือ
วิถีชีวิตชาวประมงที่โตนเลสาบ
ท่าเรือขนส่งสินค้าที่พนมเปญ
ผมนั่งแบบนี้ตลอดห้าชั่วโมงเลย ชอบมากนั่งมองวิวไม่เบื่อ
ยังมีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เลยเดินหาที่นั่งรอ ได้ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือครับ ชื่อร้านไททานิค แค่อ่านชื่อร้านก็ไม่อยากนั่งแล้วกำลังจะไปเรือไม่อยากเหมือนไททานิค แต่ขี้เกียจไปไกลครับเลยนั่งรอที่ร้านนี้ นั่งเปิดโน๊ตบุคทำงานได้แปปเดียวก็ได้เวลาบ่ายสอง ลุงขายตั๋วเดินมาตามที่ร้าน พร้อมกับแจกถุงกระดาษคนละใบ เปิดออกมาก็ประกอบด้วย น้ำเปล่าขวดเล็ก ขนมปังหนึ่งชิ้น แล้วก็กล้วยน้ำหว้าจิ๋ว(ลูกเล็กมาก) สองลูก เอาไว้กินบนเรือ ประมาณคร่าว ๆ มีผู้โดยสารประมาณยี่สิบคนครับ
ด้านบนเป็นด่านตรวจคนขาออกของประเทศกัมพูชา
เรือเร็วที่เราโดยสารไป ประเทศเวียดนาม
ด่านเตรวจขาเข้าประเทศเวียดนาม
มีเหตุต้องหยุดซ้อมเครื่องกลางแม่น้ำครับ

ที่เห็นนองพื้นเรือนั้นคือ น้ำมันเรือครับ ปรากฏว่าสายน้ำรั่วครับ
บางช่วงฝนตก ลมแรงทำให้มีคลื่นกระแทกเรือพอสมควรให้ได้ตื่นเต้นซะนิดน่อย
สะพานแขวนแห่งหใม่ของประเทศกัมพูชา
ชาวประมง ทอดแหในแม่น้ำโขง
เรานั่งเรือโดยสารออกจากโตนเลสาบเข้าสู่แม่น้ำโขงได้ไม่นานฝนก็เริ่มลงเม็ด และมีลมแรงทำให้เรือต้องแล่นช้าลงเนื่องจากมีคลื่นมากระแทกเรือให้ได้ตื่นเต้นกันพอควร ไม่นานเราก็ถึงด่านตรวจคนขาออกของประเทศกัมพูชา เราต้องลงจากเรื่อเดินขึ้นไปผ่านพิธีการตรวจคนขาออกบนฝั่งด้วยตนเอง แต่ด่านที่ขาเข้าประเทศเวียดนามเจ้าหน้าที่บนเรือจะรวบรวมพาสปอร์ตของทุกคนไปจัดการให้ครับไม่ต้องไปผ่านพิธีการด้วยตัวเอง
มีเรื่องให้ตื่นเต้นระหว่างทางนิดหน่อยคือ เรือต้องหยุดกระทันหันกลางแม่น้ำโขง เนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหาครับ จนท. บนเรือเดินมาเปิดฝาห้องเครื่องยนต์ท้ายเรือซึ่งเป็นบริเวณที่ผมนั่งอยู่พอดี เพื่อดูว่ามีปัญหาอะไร แล้วก็พบว่าสายน้ำมันที่จ่ายน้ำมันเข้าเครื่องยนต์รั่วครับ แต่ยังโชคดีที่รั่วตรงปลายเลยสามารถซ่อมแซมและเดินทางต่อไปได้ (แหม...นึกว่าต้องมีการโปกเรือกันซะแล้ว ทริปลาวผมก็ต้องโปกรถ เพราะมีรถพังขวางทางไปต่อไม่ได้ ต้องลงเดินไปโปกรถ เกือบได้นอนกลางป่า มาทริปนี้เกือบได้ลอยไปลอยมากลางแม่น้ำโขงซะแล้ว)
บ้านเรือนสองฝั่งคลองในช่วงก่อนถึงเมือง จ๊าวด๊ก
บรรยากาศ ก่อนจะมืดริมสองฝั่งคลอง ชวนให้เหงาครับ
แสงตอนใกล้มืดจะเป็นแบบนี้ครับ
ริมฝั่งเมืองจ็าวด๊ก โซนที่เป็นตัวเมือง
เมืองจ๊าวด๊กโซนไม่ไกลจากท่าเรือ ค่อนข้างเงียบครับ
ห้องพัก ราคาคืนละประมาณ 500 บาท
มาเวียดนามกินไก่ย่างห้าดาวรองท้องไปก่อน
เนื้อผัด มื้อเย็นของผมครับ
ร้านอาหารที่ยังพอเปิดอยู่บ้าง คล้ายร้านข้าวต้มบ้านเรา
โรงแรมที่เราพัก โรงแรมตรังเนือง
เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางคือเมือง CHAU DOC จ๊าวด๊กเมืองท่าเรือโดยสาร ของเรือที่มาจากพนมเปญ เราขึ้นจากเรือก็เดินเข้าเมือง บรรยากาศตอนประมาณหนึ่งทุ่มก็ค่อนข้างเงียบ ร้านรวงส่วนใหญ่จะปิดแล้วจะมีเปิดอยู่บ้างก็เป็นโรงแรม กับร้านอาหารเล็ก ๆ เราเดินหาโรงแรมเข้าไปต่อรองอยู่สองสามที่ก็ได้โรงแรมชื่อ ตรังเนือง ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก แถมยังอยู่ติดกับตลาดสดของเมืองอีกด้วย

พอเช็คอินเรียบร้อยก็หามื้อเย็นกินครับ ไปเจอร้านไก่ทอดห้าดาว อืม...มาถึงเวียดนามเลย ผมเลยเข้าไปจัดมารองท้องสักสองน่อง รสชาติได้มาตราฐานครับ เหมือนที่บ้านเรา จากนั้นก็ไปจัดมื้อหลักเป็นเนื้อผัดกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ต้องเติมซีอิ้วซะหน่อยครับ รสจืดไปนิด อื่มท้องก็กลับห้องพักผ่อนครับ ถึงแล้วคราบเวียดนาม ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น