ค้นหาอะไรก็เจอ...โดยกูเกิล

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

เดินทางจาก อ.เชียงของ เชียงราย ไป บ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ลาว

ท่าเรือช้าที่ห้วยทราย

ผู้ร่วมเดินทาง

หลังจากกินกาแฟดอยช้างที่บ้านฝ้ายเกสต์เฮ้าส์เรียบร้อย ผมก็พร้อมเดินทางไปด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ อ. เชียงของ พี่เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ขับรถไปส่งครับ แวะรับเพื่อนร่วมทริปอีก สามสี่คนซึ่งพักกันคนละที่ จากที่พักใช้เวลาไปถึงด่านไม่เกิน 20 นาที ค่าบริการจากที่พักไปถึงด่าน 50 บาท แต่ถ้านั่งรถสามล้อไปเองประมาณ 60 บาทครับ เมื่อไปถึงด่าน มิสเตอร์ฮ็อตเซีย ผู้ที่จะพาเราเที่ยวลาวตลอด 9 วันก็รอเราอยู่แล้วครับ

ใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ทักทาย ทำความรู้จักเพื่อนร่วมทริปกันเล็กน้อย ก็ทำเอกสารเพื่อผ่านด่าน สำหรับหลายคนที่ยังไม่เคยกรอกเอกสารข้ามแดน เค้ามีตัวอย่างให้ดูครับ
การข้ามแดนที่เชียงของ หลังจากยื่นเอกสาร พาสปอร์ต ผ่านด่านฝั่งไทยเรียบร้อยแล้ว เราก็จะนั่งรถโดยสาร ไปยังด่านฝั่งลาว ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะคนละ 80 บาท เมื่อถึงด่านฝั่งลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาว เราก็จะนั่งรถสองแถวเล็กเพื่อไปยัง ท่าเรือห้วยทรายครับ
สาวแบงค์ที่เราแลกเงินที่ ด่านฝั่งลาวครับ
สองแถวเล็กจากด่านฝั่งลาวไปท่าเรือ ห้วยทราย


สำหรับการทางเที่ยยลาวทริปนี้เราจะเริ่มจาก นั่งเรือช้าไป เมืองปากแบง แขวงบริคำไชย ซึ่งเป็นจุดที่เรือช้าที่จะเดินทางไปหลวงพระบางจะต้องจอดพัก หนึ่งคืน เดินทางตรงไปหลวงพระบางเลยไม่ทันนะครับ เพราะจะมืดซะก่อน การเดินทางโดยเรือในแม่น้ำโขงตอนกลางคืนอันตรายมากครับ เพราะน้ำโขงไหลแรงมาก แถมกลางน้ำยังมีเกาะแก่งที่เป็นโคดหิน ใหญ่บ้างเล็กบ้างเต็มไปหมด

การเดินทางไปหลวงพระบางโดยเรือช้าเป็น ที่นิยมมากของนักท่องเที่ยวที่ไม่รีบร้อน ต้องการชมวิถีชีวิตของชาวลาว บนริมฝั่งโขงไปด้วย การเดินทางจะใช้เวลา 1 คืน 2 วันจึงจะถึงหลวงพระบางครับ แต่สำหรับพวกเรา จุดหมายแรกที่เมือง ปากแบง จากนั้นเราจะแวะเที่ยว ปากงึม และ ท่าส่วง ที่ละหนึ่งคืนก่อนเดินทางสู่หลวงพระบาง

อาหารเช้า ร้านเฝอที่ท่าเรือ ห้วยทราย
อันนี้ไม่ใช่เฝอนะครับ แต่เป็น ข้าวซอย น้ำใส ไม่เหมือนข้าว๙อยที่เชียงใหม่
 หลังจากถึง ท่าเรือห้วยทราย สิ่งแรกที่ทำคือ ไปซื้อตั๋วเรือก่อนครับ วันนี้คนเยอะเดี๋ยวตั๋วเต็มค่าโดยสารเรือช้าไปปากแบง คนละ 450 บาทครับ ตอนไปซื้อต้องใช้ พาสปอร์ตและกรอกรายชื่อในเอกสารด้วย หลังซื้อตั๋วเรียบร้อย สบายใจได้ว่ามีเรือเดินทางแน่นอน เราทั้งกลุ่มก็ เดินหาอาหารเช้ากินครับ เพราะยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย

นอกจากอาหารเช้าแล้วก็หาอาหารสำหรับมื้อกลางวันบนเรือด้วยครับ เพราะ เรือไม่จอดพักให้หาซื้ออาหารเราต้องเตรียมไปเอง หรือ ไปซื้อบนเรือซึ่งก็มีแต่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครับ แล้วก็พวกเครื่องดื่ม มาฝั่งลาวทั้งที พวกเราพร้อมใจกินมื้อแรกที่ลาวด้วย เฝอ ครับ เฝอ หรือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำ แบบบ้านเรานั้นละครับ ที่ลาวนิยมกินเฝอกันมากไปทางใหนก็ เจอแต่ร้านเฝอ ผมสั่งเฝอเป็ดมากิน อร่อยดีครับเป็ดเนื้อนุ่มแน่น อร่อยมาก และสำหรับมื้อกลางวันผมเตรียม แซนวิท หรือ ข้าวจี่ ไปกินบนเรือ
ร้านขายแซนวิท หรือ ข้าวจี่
ที่นั่งบนเรือช้าก็จะเป็นที่นั่งฝั่งละสองคน อันนี้เป็นเรือแบบเล็กนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็ฝั่งละสี่คน

ร้านขายอาหาร เครื่องดื่มบนเรือ
 หลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อย เดินหาเสบียงมื้อกลางวันเสร็จก็นั่งรอเวลาเรือออก ซึ่งเรือจะออกประมาณ 10:30 ซึ่งออกสายกว่าปกติครับ เพราะเค้ารอกรุ๊ปทัวร์ที่จองไว้ล่วงหน้า ตั๋วเรือช้าจะระบุที่นั่งไว้ครับ และเนื่องจากวันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวนักเดินทางเยอะมาก ทำให้เรือที่เราเดินทางไป ที่นั่งไม่พอครับ ต้องใช้เรืออีกหนึ่งลำ ปกติเรือลำใหญ่ลำเดียวพอ แต่วันนี้เค้ามีแต่เรือเล็ก
เรือช้า แบบนี้เป็นลำเล็กครับ นั่งได้ประมาณ 80 คน
บ้านเรือนช่วลาวตามสองฝั่งโขง

มองย้อนกลับไปที่ ท่าเรือห้วยทราย

สัตว์เลี้ยงที่ปล่อยหากินตามริมโขง
ผมแนะนำคนที่เดินทางโดยเรือช้า นอกจาก กล้องถ่ายรูปแล้ว สมุด หนังสือ ติดไปหน่อยก็ดีนะครับ ดูวิว สองฝากฝั่งจน อิ่มแล้ว นั่ง ๆ นอน ๆ พอแล้วก็ อานหนังสือครับ เป็น กิจกรรมที่ ผมแนะนำตอนนั่งเรือช้า

ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือห้วยทรายประมาณ 10:30 ถึงท่าเรือ ปากแบง ประมาณ 17:30 ครับ การเดินทางด้วยเรือช้าให้ประสบการณ์ที่ดีทีเดียวครับสำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางเส้นทางนี้ผมแนนำ ถ้ามีเวลาหลายวัน ควรจะลองซักครั้งครับเดินทาง ช้า ๆ ก็ถึงเหมือนกัน ต่อกันที่เรื่องหน้าจะพาไปดูบรรยากาศเมือง ปากแบง
ท่าเรือปากแบง
สามสาวผู้ร่วมเดินทางไปในทริปนี้